วันนี้ไฮไลท์หลักเราจะไปเล่นสกีที่ Hakuba ซึ่งเป็นสถานที่ จัด โอลิมปิกฤดูหนาว ครับ

ซึ่งวันนี้ตื่นเช้ามาก็ไปชมซากุระที่วัดบนเขาของ Nagano-Ken อีกสักรอบก็จะเห็นวิวของเมือง Nagano อีกมุมนึง

เข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนวัดซึ่งอยู่บนภูเขาใน Nagano-Ken นั่นแหละครับ วัดนี้ไม่ค่อยมีคนมาเลย แต่ก็ยังมีพระเฝ้าอยู่ ภายในวิหารปิดประตูเข้าไม่ได้ แต่มีกลองให้ตีนิดหน่อยเพื่อความเป็นศิริมงคล

ซากุระบริเวณนากาโนยังไม่ร่วงครับเนื่องจากภูมิประเทศเป็นที่สูงนั่นแหละครับอากาศเลยยังไม่ทำให้ซากุระร่วง เรามาโชคดีเห็นซากุระหลายวันเลย

จากนั้นก็ไปสกี รีสอร์ทที่ Hakuba กันเลยซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยใช้จัดโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 1998 ซึ่งให้คนท้องถิ่นโทรเช็คแล้วยังพอมีหิมะอยู่ครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง บวกหลงอีกนิดหน่อย

หลงแล้วก็หิวสิครับหลงมากไปหน่อย คือตอนขับรถไปเนี่ยก็ขับตาม GPS ของรถนี่ล่ะครับแถม GPS เป็นภาษาญี่ปุ่น โอ้ยเล่นเอาเหนื่อย เราไม่ได้ขึ้น Highway ด้วย เพราะตาม GPS นำทางไปวนไปวนมา ไม่ไหวครับ ขอแวะเซเว่นเติมพลังหาอะไรกินกันก่อน เซเว่นของเค้าดีครับมีห้องน้ำให้เข้าด้วยค่อยยังชั่ว แถมอาหาร ขนม นมเนยน่ากินทั้งนั้น

ที่ต้องให้คนโทรไปเช็คก่อนเพราะจริงๆแล้วช่วงที่ไปนี้หิมะเริ่มจะละลายหมดแล้ว สกีรีสอร์ทหลายที่ปิด แต่ลานสกีที่ใช้แข่งโอลิมปิกยังอยู่ โชคดีจริงๆ คราวนี้เป็นโชคดีอีกครั้งของเราครับ ถึงแล้วครับ

ไปถึงก็เช่าชุดกันเลย 2400 เยนโดยประมาณ สำหรับ Beginner คุยกับเจ้าของรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง แต่ยังดีมีคนช่วยคุยให้

ร้านมีเยอะแยะมากมายไม่รู้เข้าร้านไหนครับเลยเอาร้านที่ยังเปิดๆอยู่ใหญ่โตน่าจะราคาไม่แพง

ภายในมีอุปกรณ์สกีให้เลือกทุกชนิด ทั้งขายและเช่าเลยครับ ถ้าพวกเราไปก็สามารถหาเช่าได้เลย เค้าจะต้องถามน้ำหนัก อายุ ส่วนสูง เบอร์รองเท้า ต่างๆของเราเพื่อจะได้เลือกชุดสกีให้ถูกต้องตามสรีระของเราครับ

ได้ออกมาแล้วสองอัน ผมกับพี่อีกคนขอลองครับจะต้องเล่นให้ได้

แต่งเนื้อแต่งตัวกันเสร็จ ก็นั่ง กอนโดลาขึ้นไปบนยอดเขาลานสกีกันเลย ค่าขึ้นไป 1730 เยน จริงๆผมจะจ้าง Instructor ด้วยแต่ลานสกีสำหรับ Beginner ปิดไปแล้วน้ำแข็งละลายเลยอดไป

ซื้อตั๋วที่เค้าเตอร์นี้เลยครับ

กระเช้า กอนโดลาพาเราขึันไปยอดสูงสุดของ Hakuba สถานที่จัด Winter Olympic 1998 จริงๆไม่รู้หรอกครับ เขาพามาเพราะว่าน้ำแข็งมันยังไม่ละลายและเหลือลานนี้ลานเดียวด้วย

บอกก่อนใครกลัวความสูงให้นั่งหันหลังครับอย่าไปมองข้างล่างไม่งั้นหัวใจจะวาย

พอขึ้นไปลาน Beginner ไม่มีีได้แต่ไปเล่นเรียบๆข้างบนเขา อากาศดีครับ เจ้าหน้าที่ก็คอยดูแล ยกอุปกรณ์สกีให้ ส่วนรองเท้าสกี เดินลำบากครับถ้าคนเดินไม่เป็น แรกๆก็แทบล้มเหมือนกัน พอขึ้นไปได้เท่านั้นแหละ ทั้งลื่นทั้งล้ม

แต่ก็มีบางช่วงสกีได้ คนญ่ปุ่นที่ขึ้นมาก็สอนวิธีการเดิน ก็ยังไม่ค่อยเป็นรวมถึงกลัวมันจะไหลลงเขาอีกด้วย คราวหน้ามาจ้างครูสอนเลยต้องเป็นให้ได้
ถ่ายรูปชมบรรยากาศ หิมะ สกี เท่ห์ดี แต่ยังเล่นไม่ค่อยเป็น สักพักสองชั่วโมง

เริ่มเหนื่อยเข้าไปหาอะไรกินบนนั้นเลยอาหารก็โอเคไม่แพงมาก ประมาณ 1000 เยนก็อิ่ม นั่งชมวิว ถ่ายรูปสักพัก ก็ลงเพราะก่อนแสงจะหมด

ไปเที่ยวชม ปราสาทมัตสิโมโต้ก่อน ไปถึงปราสาทก็นักท่องเที่ยวตรึม ชมความสวยงามถ่ายรูปกับสะพานแดงและปราสาท

มีหลายมุมมองก็สวยไปคนล่ะแบบทำให้เรานึกการ์ตูนสมัยก่อนที่เราชอบดูเช่นอิกคิวซัง ที่มีภาพปราสาทญี่ปุ่นแนวๆนี้มาให้เราชม

ที่นี่ดอกซากุระเริ่มร่วงแล้ว

นักท่องเที่ยวบางคนก็หยิบซากุระที่ร่วงแล้วมาโปรยถ่ายรูปสวยงามกันไป

ทางเข้าตัวประสาทครับปิดก็เลยได้แต่ถ่ายรูปด้านนอก

ขากลับรถดันไปจอดอีกทีก็ต้องเดินกลับก็เห็นความน่ารักของคนญี่ปุ่นตามทาง

มีน้ำให้ดื่มด้วยครับตักกะบวยดื่มกัน สะอาดปลอดภัย

เดินไปเจอ มันเผา 400 เยน ไหนก็มาถึงที่แล้วก็ลองกินดู อร่อยนะครับ คือตอนนี้อะไรๆก็อร่อยไปหมดมันหิวเที่ยวมาทั้งวัน

ตกเย็นก็เดินทางกลับ Nagona-Ken เพื่อไปอาบน้ำแร่ออนเซนบนภูเขาที่ผมขอบอกเลยว่าวิวมันสวยมาก ไว้จะมาทำรีวิวที่ออนเซ็นที่นี่ แบบเต็มๆอีกที

พอดีกลับดึกราคาปกติ 750 เยน มาดึกไปเหลือแค่ 350 เยน 55555 ก็ดีสิถูก แต่แช่ได้ไม่นาน แต่ประทับใจมากๆครับ ถ้าคุณออกไปแช่ข้างนอกนะครับมันอยู่ริมเขาสูงของ นากาโนเลยครับ แล้วนอนแช่นะ คุณจะเห็นดวงดาวและวิวของเมืองนากาโนแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ผมรักนากาโนจริงๆ

อาบน้ำเสร็จเราก็ต้องไปหาอะไรกินสิครับ วันนี้กินง่ายๆ Sukiya ครับสั่งเป็น set

สั่ง บิบิมบับ เอนี่มันอาหารเกาหลีไม่ใช่เหรอ งงเลย แต่อุปกรณ์เค้าครบครับมีที่แยกไข่แดง มีช้อนคนซอสอะไรต่างๆเพียบ

อันนี้จานของพี่เค้า ผมว่าของผมน่ากินกว่านะ

ภายในตัวร้านนั่งสบายคนญี่ปุ่นทำงานดึกๆเสร็จก็มาแล้วก็ไปครับง่ายกินง่ายๆสบายๆ

ที่สำคัญมีขิงให้ตักถ้วยเบ้อเร่อแก้เลี่ยนครับ จัดไปสิ

แค่จบวันนี้ก็ไปซะเหนื่อยแล้ว เที่ยวคนเดียวแบบคนโสดบางทีก็สบายดีนะครับ

• Author
• Recent Posts

ติดตามผมได้

Tony

สมัยเด็กๆ ผมได้มีหนังสือที่เป็นเล่มโปรดเล่มแรก "80 วันรอบโลก" และ "พี่น้องตระกูลไรท์" ซึ่งเป็นหนังสือที่อ่านไม่รู้กี่รอบ ผมก็เลยมีความฝันที่จะไปเที่ยวรอบโลกให้จงได้ พอมาถึงวันนี้ทำงานหาเงินเองได้แล้ว ก็ขอไปทำตามความฝันนั้น ก่อนที่จะไม่มีแรงเหลือที่จะเดินเที่ยวแบกเป้

ติดตามผมได้

Latest posts by Tony (see all)

• EP3.7 Hallstatt สวรรค์บนดิน - January 14, 2024
• เริ่มต้นท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างไร - May 3, 2023
• คนไปเที่ยวเขต Kanto ต้องไม่พลาดตั๋วนี้ “Greater Tokyo Pass” บัตรเดียวคุ้ม - March 24, 2018